Hawaii ขอเที่ยวอะไรแปลกๆหน่อยล่ะกัน Oahu Ghost Tour present Orbs of Oahu

Oahu Ghost Tour present Orbs of Oahu...
หรือจะมีพลังงานบางอย่างก็เป็นได้...



งานนี้ลุยเดียว เพราะเพื่อนอีกสองคนกลับไทยไปแล้ว ไม่มีอะไรทำเพราะดำนำมาหลายวันแล้วเที่ยวเกือบหมดแล้ว ดำมากแล้วด้วย เลยเลือกที่จะลองอะไรแปลๆหน่อยล่ะกันซึ่งก็คือ ทัวร์ผีเกาะฮาวายนั้นเอง

ทัวร์เริ่มตอนหนึ่งทุ่มซึ่งเป็นเวลาพระอาทิตย์ตกดินพอดี มีเพื่อนร่วมทัวร์อีก6คน
ไกด์คือคุณลุงจอห์น คุณครูสอนวิชาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของฮาวาย
สาระความน่ากลัวการบิ้วอารมณ์มาเต็ม ลุงบอกว่าเราสตรองมากที่มาคนเดียว เราก็ตอบไปว่า ที่ไทยวัดน่ากลัวกว่าเยอะ
ซึ่งลุงแกเคยมาไทยตอนเป็นทหาร ลุงแกก็ใช่ ​ที่ไทยน่ากลัวกว่าเยอะมากๆ

เป็นทัวร์ตามพลังงานวิญญาณในเกาะ Oahu ฮาวาย คนที่นี้เชื่อว่าวิญญาณ=พลังงานซึ่งมีหลายสีๆ ​(Orb)
สีขาวคือดี สีแดงส้มเหลืองคือโกรธ สีเขียวให้ระวังโรคภัยไข้เจ็บ (วิญญาณบรรพบุรุษมาเตือน) สีดำคือโดนผีบังกล้องคะ
พลังงานเหล่านี้ไม่มีความเชื่อด้านศาสนาหรือความลำบากของภาษาเข้ามาเกี่ยวข้องเลย เพราะสุดท้ายเขาก็มาได้แค่แสงกลมๆเท่านั้น

เราไปทั้งหมด 5 ที่ด้วย มีที่ๆทั้งเป็น พลังงานด้านบวกและพลังงานด้านลบมากๆ
ลุงแกจะย้ำตลอดว่า Strong Mind Strong Heart อย่าให้เขาทำอะไรเราได้! Go away! ไล่ไป!!
ลุงแกจะสวดร้องเพลงภาษาท้องถิ่น ให้เราเดินตาม เหมือนเป็นการเปิดทางให้เราได้เจอ
พอถึงจุดต่างๆก็จะให้เราถ่ายรูปรัวๆ เพื่อดูความแตกต่างของแต่ละรูป ดูการเคลื่อนไหวของพลังงานต่างๆ

ตอนนั้นคือมันน่าสนใจมากๆ เพราะเราเป็นพุทธด้วย พอมาทัวร์นี้คือแบบ ผีมาได้ทุกที่ทุกรูปแบบจริงๆ
บรรยากาศเริ่มมืด...สงบ...ลมเบา...ฝนตกปอยๆ ซึ่งลุงบอกว่า พลังงานกำลังมีการปะทะกันมากขึ้น
พวกเราน่จะถ่ายได้ชัดมากขึ้น
พอรถเริ่มเคลื่อนตัวไปสถานที่แรกที่ออกนอกเมืองไปอีก
แกก็บอกว่า ดูแบตมือถือดีๆนะ ดูแลตัวเองดีๆนะ เพราะพลังงานพวกนี้ส่งผลต่อเรา
(ส่วนตัวคิดว่า ก็เปิดไฟฉายกับถ่ายรูปรัวๆ จะแบตไม่หมดได้ไง แต่ต้องยอมรับว่าแบตหมดเร็วผิดปกติมากๆ)
และแล้วแกก็เริ่มเล่าประสบการณ์ที่แกเจอตั้งแต่วันแรกที่ทำงานมาตลอด 13 ปี

เรื่องเล่าแรก คือลุงแกพาทัวร์ปกติแต่ที่นี้ดันมีลูกทัวร์ปากดี ไปพูดว่า bring it on เท่านั้นแหละ
มีลูกทัวร์คนหนึ่ง จู่ๆก็ล้มลง เป็นแผลใหญ่ๆตรงท้องและเลือดไหลจากท้องหนักมาก
มือถือ20กว่าเครื่องใช้ไม่ได้ ติดต่อใครไม่ได้ ทุกคนสติเริ่มแตก
รถก็ประตูโดนล็อค พอเปิดได้ก็สตาร์ทไม่ติด บางคนเริ่มวิ่งหนี (เหมือนในหนังผีเลย)
เริ่มกระวนกระวาย แต่พอลุงแกพาลูกทัวร์ออกมาจากสถานที่นั้น
ทุกอย่างก็หายไปเหมือนไม่ได้เกิดขึ้น แกเลยบอกว่าขอร้องอย่าท้า ลำบากกุ

เรื่องที่สองในการบิ้วอารมณ์ในรถ
แกพาทหาร26คนที่เพิ่งกลับจากอัฟกานิสถานมาทัวร์ผี
แกก็พาทัวร์ปกติ แล้วก็ถ่ายรูปรวมปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ ในรูปรวมที่แบบชัดมากๆๆๆ (vivid picture!)
มีทหารมีกระสุนเต็มตัวติดมาด้วย น่าจะแบบโดนยิ่งเข้าที่หน้าผากด้วย
ลุงแกโดนรัฐบาลเรียกพบ นึกว่าเปนผู้ก่อการร้าย "How I suppose to prove this thing?" ลุงพูด
ลุงเลยต้องนำทหารและทีมสำรวจเลยต้องมาลงสำรวจวสถานที่นั้นอีกรอบเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์
ลุงบอกอีกว่าทัวร์นี้เลยดังในหมู่ทหาร เพิ่มรายได้ให้แกซะเลย

บิ้วมาได้สักพักก็มาถึงสถานที่แรก....

สถานที่แรก สถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง
คดีเพียบ ฆ่าตัวตาย ฆ่าโยนศพทิ้ง สงคราม...
ไกด์บอกว่าอาจจะโดน คุณคนนี้แกล้งดึงเสื้อได้นะ คุณคนนั้นมาถ่ายรูปด้วย
และแล้วเพื่อนร่วมทัวร์ก็เริ่มถ่ายติดก้อนพลังงานๆต่าง
มีคุณลุงคนหนึ่งที่โดนเมียบังคับมาก็โดนดึงเสื้อต่อหน้าเรา
เขาหันมาจับเสื้อแล้วมองหน้าเรา เผ่นสิ ไม่ใช่กรู!



สถานที่สอง พลังงานเริ่มด้านลบมากขึ้น
สถานที่นี้เต็มไปประวัติศาสตร์ที่โหดร้ายมากๆ
ใต้กองหินภูเขาไฟนั้น คือศพของเด็กและผู้หญิงในหมู่บ้านหนึ่งที่โดนฆ่าล้างปาง
แบบโดนจับมาฆ่าเรียงคนเลย (สมัยก่อนฮาวายก็เป็นขนเผ่าๆล่ะก็รบกัน ไกด์บอกว่าคล้ายๆไทยแหละ)
สู้กันตัวต่อตัว และเวลาฆ่าจะต้องจ้องไปศัตรู ​look into the enemy eyes
แค่นั้นไม่พอ...
ผู้นำเผ่าๆหนึ่งมีความเชื่อว่า จะแข็งแกร่งถ้าได้กินเนื้อคน ได้อาบเลือดคน
ต้องบูชาพระเจ้าด้วยการฆ่า 5 คนต่ออาทิตย์ มั่ง *ถ้าจำไม่ผิด*
วิธีการฆ่าโหดสัสคะ
จับคนเป็นๆมากรีดเนื้อ เลาะกระดูกทีละชิ้น ควักเครื่องในออกมาให้เหยื่อเห็น และปล่อยให้ตายช้าๆ
ตอนนั้นคือฟังเรื่องเล่าล่ะขนลุกมาก พลังงานด้านลบเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มอึดอัด
ลุงแกยังคงบิ้วอารมณ์และบรรยากาศได้ดีมากๆ มีการเตือนตลอด ตั้งสติ เจออะไรให้ไล่
อย่าไปกลัว Keep positive mind คิดแต่เรื่องดีๆ อย่างเช่นลุงแกชอบช้อกโกแลต แกก็จะนึกถึงเรื่องนั้น
แต่นั้นก็หมายความว่าลุงแกกำลังกลัว
ตอนนี้สมาชิกในทัวร์บางคนเริ่มหมดแรงและปวดเมื่อยหนักตัว (ส่วนตัวคิดว่าเพราะลุงบิ้วมากกว่า)
เพราะเรายังสบายดีอยู่ มีอึดอัดบ้าง ขนลุกนิดหน่อยเพราะฝนตก มีลม



สถานที่สาม
มาถึงสถานที่พลังงานด้านบวกกันบ้าง ความรู้สึกมันต่างกันจริงๆ อันนี้ยอมรับเลย
สถานที่นี้อาจดูเหมือนสวนที่มีต้นไม้ใหญ่ๆธรรมดา แต่ใครจะไปรู้ว่ามันมีประวัติเหมือนกัน
เพราะมันคือเป็นสนามเด็กเล่นของเจ้าชายองค์สุดท้าย และเป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์
คนที่นี้มีความเชื่อว่าต้นไม้ต้นใหญ่นี้เป็นที่สถิตวิญญานของเหล่าราชวงศ์ และต้นไม้ที่แตกหนอออกมานั้นคือเจ้าชายนั้นเอง
(เหมือนลุงบอกว่ามีนไม่มีทางที่ต้นไม้ชนิดนี้จะมาโตคู่กับอีกต้นได้)
มานี้ไม่ค่อยถ่ายติดอะไร แต่เพื่อนร่วมทัวร์ถ่ายมานี้คือแสงสีเขียวเลย ตกใจเหมือนกัน
เพราะตรงนั้นคือไฟเหลืองอ่ะ ยังไม่พีค...
มาพีคตรงที่กำลังจะนั่งรถไปอีกที จู่ๆลุงก็มาทักว่า มีญาติผู้ใหญ่ที่เพิ่งเสียไปภายใน 5 ปีบ้างไหม
ก็คืออาม่าเราเอง ลุงบอกว่าอาม่าตามมาตั้งแต่ที่เมื่อกี้แล้ว เขาค่อยดูแลเรามาตลอดเลยนะ Always do good things...
เขาบอกว่าจะรู้สึกทางด้านขวาเรา อาจจะปวดไหล่ขวา แก้มร้อนๆ ตอนแรกก็ปกติดีนะพอลุงทักก็รู้สึกเลย -..- อุปทานมาก แต่ก็ไม่ลบหลู่ล่ะกัน





สถานที่สี่โหดสุดในทั้งหมด...Manao Falls สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง
จากทางเข้าไปเป็นที่ถ่ายทำ ​Jurassic Park ภาคหนึ่ง ฉากที่ ทีแร๊กวิ่งไล่รถ
ตอนกลางวันคือธรรมชาติสวยมาก ต้นไม้ใหญ่แตกกิ่งสวยงาม เพื่อนยังยืนถ่ายรูปกันอยู่เลย
แต่ใครจะไปรู้ว่าตอนกลางคืนกลายเป็นทางผีผ่านไปซะงั้น!! ความเชื่อแบบไทยเลย
ต้นไม้ต้นใหญ่เชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณเร่รอนจำนวนมาก ทางเดินป่าตอนกลางคืนการันตีว่าเจอแน่นอน....
เลยต้นไม้ต้นใหญ่ไปจะเป็นที่ทิ้งศพเก่าของเหล่ามาเฟียจีนที่คุม Downtown
พลังงานด้านลบนี้เยอะจนอึดอัดมีลูกทัวร์เริ่มไม่สบายตัวอยากกลับ
ลุงก็เลยให้น้ำเกลือไปล้างหน้าล้างตา ให้ถือกิ่งต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีความเชื่อว่าจะปัดปล่าวิญญาณแล้วก็ป้องกันวิญญาณร้ายได้
ลมเริ่มเย็นขึ้น ฝนเริ่มตกหนัก จนสุดท้ายลุงก็ตัดสินใจพวพวกเรากลับ บรรยากาศเริ่มน่ากลัวและอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่รู้ว่าโดนลุงแกบิ้วมากไปหรือเปล่า สุดท้ายก่อนลุงขึ้นรถ ลุงก็ตะโกนไล่ผีเป็นภาษาฮาวาย ​"Ka Ka Ka"






(รูปนี้ไม่ได้กวนแต่อย่างใดแต่ถ่ายๆอยู่ ก็ได้ภาพดำสนิทมาเฉยเลย)

ลุงแกจะสำรวจรูปของลูกทัวร์ทุกคน ทุกคนถ่ายติดพลังงานที่กลายเป็นหน้าคน เป็นรูปร่างของคนได้ มีแต่เราคนเดียวมั่งที่ถ่ายไม่ติด
ลุงก็ย้ำตลอดว่าเพราะเรามีดวงวิญญาณจากญาติผู้ใหญ่ปกป้องเราอยู่ เราเลยไม่สามารถเข้าถึงได้ขนาดคนอื่นๆ
(ตอนนั้นคือคิดในใจเลยว่า หนูเสียมาตั้งแพง ขอสักรูปเถอะคะ)
เราเริ่มถอดใจกับการถ่ายติดพลังงาน แต่เราก็เอารูปที่ถ่ายให้ดู ลุงแกก็เลื่อนไปเรื่อยๆจนในที่สุดที่สุดก็เจอ!
ลุงขยายรูปให้ได้และบอกว่าเราถ่ายติดพลังงานที่พยายามจะกลายเป็นรูปหน้าคนให้เราเห็น แบบกำลังจ้องหน้าเราเลย
และรูปถัดไป เราโดนผีแกล้งปิดกล้องให้ดำสนิท

ส่วนตัว...ถ้าลุงไม่ชี้ไม่ขยายให้ดูก็คงดูไม่ออก ตอนนี้ก็ลืมไปแล้วด้วยว่ารูปไหน หาจนตาลายก็ไม่เจอ ต้องใช้จิตนการเสริมเข้าไปด้วยอ่ะ
สุดท้ายลุงแกพาเราไปขอขมาที่ War Memorial พลังงานด้านบวกทำให้เรากลับมาสดชื่นกลับบ้านปลอดภัย
ไม่มีอะไรตามกลับไป เป็นประสบการณ์ที่แปลกๆและน่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง ได้เรียนรู้วัฒนธรรมควบคู่ไปกับความเชื่อของชนเผ่า
(ซึ่งเหมือนกับไทยจนเราตกใจ)




สุดท้ายนี้....บรรยากาศสู้วัดไทยไม่ได้นะ ลุงแกคอนเฟริม
เรากับพ้องเพื่อนกำลังช่วยกันหารูปที่ถ่ายติดอยู่
เราแค่อยากมาแชร์ประสบการณ์จากการเที่ยวเฉยๆนะ
ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่หรือท้าท้าย ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน
แค่อยากมาลองอะไรแปลกๆนอกจากดำน้ำกับเซริฟ์บ้าง

ขอบคุณจ้า
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่